วันศุกร์ที่ 1 พฤษภาคม พ.ศ. 2558

ฟังดุดีนะท่านเจ้าสัว เพิ่มค่าแรงเป็น 500 บาทต่อวัน สร้างรายได้เพื่ม ราคาสินค้าเพิ่มตามติดๆหรือแค่คิดดังๆยังไม่ขึ้นจริง สินค้ารอจ่อขึ้นราคาเป็นแถวยาวเหยียด แลัวรายได้ที่เพิ่มมากลับมาจ่ายค่าครองชีพที่สูงขึ้นตามโดยอัตโนมัติต้นทุนของนายจ้างต้องเพิ่มอยู่แล้ว ปัจจุบันค่าแรงวันละ 300ข้าวแกงจานเท่าไร ก๋วยเตี๋ยวชามเท่าไร 40,50 เข้าไปแล้ว มีนะชามละ 30,35 แต่ได้วิญญาณ หมู วิญญาณไก่นะจะบอกให้ ต่อไปจะขึ้นมากกว่านี้อีก ท่านเอาส่วนไหนคิด!!! แต่ทะแม่งๆอยู่นะ เมื่อนึกถึง 7-11 ของท่าน ที่จะยึดทุกอาชีพของประชาชนตาดำๆไปหมดแล้ว นี่หรือวิธีแก้ปัญหารากหญ้า รากเหง้า มันจะยึดอำนาจทั้งรากทั้งโคนน่ะสิ!!!!!!

ที่มาบทความ: Sanook.com
เจ้าสัวซีพี ชี้ค่าแรงขั้นต่ำต่อวัน ควรอยู่ที่วันละ 500 บาท ไม่ใช่ 300 บาท แนะรัฐ-เอกชน ยอมจ่าย หนุนคนไทยรวยทั้งประเทศ
นาย ประธานกรรมการ และประธานคณะผู้บริหาร เครือเจริญโภคภัณฑ์ (ซีพี) กล่าวในการบรรยายพิเศษเรื่อง วิสัยทัศน์ประเทศไทย ในมุมมองของธนินท์ เจียรวนนท์ ให้แก่นักศึกษาวิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร รุ่น 2552 ว่า ปัญหาหนี้ในสหภาพยุโรปที่ขณะนี้ยังไม่สามารถแก้ได้ และอาจกินเวลานานเกือบ 10 ปี ดังนั้นรัฐบาลต้องเร่งกระตุ้นเศรษฐกิจ ให้มีการใช้จ่ายในประเทศให้มากขึ้น ให้ประเทศเข้มแข็งเพื่อรองรับวิกฤตที่กำลังจะเกิดขึ้น นโยบายบ้านหลังแรก นโยบายรถคันแรกไม่ผิด แต่ให้เร่งผลักดันนโยบายรากหญ้า โดยเฉพาะเรื่องโครงการธุรกิจขนาดจิ๋ว หรือ 1 ตำบล 1 ผลิตภัณฑ์ ต้องนำเทคโนโลยีเข้าไปช่วยพัฒนาธุรกิจเหล่านี้เพื่อให้เขาอยู่ได้อย่างเข้มแข็ง
รัฐบาลที่มีความสามารถต้องเร่งแก้ปัญหาเศรษฐกิจภาพรวมของประเทศ ให้คนไทยจนน้อยลงไทยต้องใช้ทฤษฎี 2 สูง คือ รายได้สูง ราคาสินค้าสูง เมื่อทำได้ก็เพิ่มเป็นทฤษฎี 3 สูง โดยการเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน รัฐบาลต้องดูกันว่าการทำให้คนจนมีรายได้มากขึ้นจะต้องทำอย่างไร ไม่ใช่ไปควบคุมราคาสินค้า เพราะการควบคุมสินค้าก็คือ การเอาเงินของคนจนที่เป็นเกษตรกรมาชดเชยให้กับคนจนในเมือง ซึ่งก็คือคนจนทั้งคู่
ส่วนค่าแรงขั้นต่ำที่เหมาะสมของประเทศไทยควรอยู่ที่วันละ 500 บาท/วัน ไม่ใช่ 300 บาท/วัน เพราะคิดจาก 25 เท่า ตามสัดส่วนของราคาน้ำมันที่เพิ่มขึ้นจากในอดีต หากประเทศไทยทั้งรัฐ และเอกชน กล้าจ่ายค่าแรงขั้นต่ำในระดับนี้ ผลดีที่ตามมาคือธุรกิจขนาดกลาง และขนาดเล็ก ก็จะมีรายได้มากขึ้นทันที เกษตรกรก็จะมีรายได้ตามมากขึ้นไปด้วย ซึ่งทั้งหมดนี้ขอให้นักธุรกิจทุกคนเข้าใจว่าคือการลงทุน เราต้องยอมเสียในตอนแรกก่อน แล้วจะได้คืนในภายหลัง เมื่อประเทศรวย ทุกคนก็จะยิ่งรวยขึ้นไปอีก ปัญหาสังคม ปัญหาการเมืองจะดีขึ้นด้วย เพราะคนพ้นจากความยากจน

บทวิเคราะห์ : เจ้าสัวซีพี ชี้ขึ้นค่าแรงขั้นต่ำต้อง 500 บาท

หลักการนี้เรียกได้ว่า เป็นการใช้กลยุทธ์ word of mouth คือการบอกต่อจากลูกค้าที่ใช้สินค้าจริงๆ มักจะได้รับการยอมรับและน่าเชื่อถือมากกว่าคำโฆษณาจากเจ้าของ brand ถ้าสินค้าดีจริงมีคุณภาพและสามารถตอบโจทย์หรือแก้ปัญหาให้ลูกค้าได้ จะเกิด brand royalty คือได้รับการจงรักภักดีจากลุกค้าต่อ brand น้ันๆ
ทุกอย่างที่กล่าวมาทั้งหมดต้องอยู่บนพื้นฐานของความจริงใจต่อลูกค้า ทำเสมือนประหนึ่งว่า ลูกค้านั้นเป็นครอบครัวเดียวกัน ต้องการมอบสิ่งที่ดีๆให้แก่ลูกค้า รวมถึงสังคมของลุกค้าด้วยเพราะการใส่ใจในเรื่องของสังคมแวดล้อมของลุกค้านั้น เราเข้าไปเรียนรู้กลุ่มสังคมของลูกค้าแต่ละกลุ่ม จะทำให้เราได้ ข้อมูลเชิงลึกและสามารถที่จะนำข้อมูลที่ได้มาพัฒนาสินค้าให้ตรงกับความต้องการของลูกค้าได้มากที่สุด รวมถึงการที่เราได้เข้าไปเรียนรู้และให้ความช่วยเหลือกลุ่มสังคมของลูกค้าจะทำให้ได้รับความจริงใจ ความไว้วางใจจากลุกค้าตลอดไป ส่งผลให้ธุรกิจมีความยั่งยืนยาวนาน
นี่ก็คืออีกวิธีหนึ่งที่จะหลีกเลี่ยงการทำการตลาดแบบดั้งเดิมคือ red ocean มาเป็น blue ocean

บทวิเคราะห์ : 4 วิธีมัดใจลูกค้าด้วยการสร้างสายสัมพันธ์ส่วนบุคคล

 
MBA Marketing © 2015